หลักการทำงาน และ องค์ประกอบของระบบกรองอากาศ

ระบบกรองอากาศในปัจจุบันมีการทำงานอย่างไร และ มีส่วนประกอบอะไรบ้าง

ระบบกรองอากาศ

โดยในปัจจุบันระบบกรองอากาศสำหรับเครื่องฟอกอากาศนั้นจำเป็นมากสำหรับคนยุคนี้ โดยเฉพาะผู้ที่อาศัยอยู่ตามเมืองใหญ่หรือ อยู่ใกล้นิคมอุตสาหกรรม เพราะต้องเผชิญกับปัญหามลภาวะมากกว่าผู้ที่อาศัยอยู่ในโซนที่ห่างไกลจากตัวเมือง โดยระบบกรองอากาศ จะทำหน้าที่ในการกรองสิ่งสกปรก ฝุ่นละออง เชื้อโรค และ สารพิษต่าง ๆ ออกจากอากาศ เพื่อให้อากาศที่ผ่านเข้ามามีความบริสุทธิ์มากขึ้น การทำงานของระบบกรองอากาศประกอบด้วยขั้นตอนการกรองหลายชั้น และ มีองค์ประกอบสำคัญต่าง ๆ เพื่อให้การกรองเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเราจะมาแนะนำหลักการทำงานของระบบกรองอากาศในเครื่องฟอกอากาศกันว่ามีองค์ประกอบการกรองอย่างไร และ ทำงานอย่างไรกันบ้าง

ทำความเข้าใจหลักการทำงานของระบบกรองอากาศ

  1. การดักจับฝุ่น และ สิ่งสกปรกของระบบกรองอากาศ
    สำหรับสภาพแวดล้อมที่อากาศมีฝุ่นละออง หรือ สิ่งปนเปื้อนจะถูกดูดผ่านตัวกรองที่มีหลายชั้นของระบบกรองอากาศ เพื่อดักจับฝุ่น และ อนุภาคที่มีขนาดต่าง ๆ โดยตัวกรองของระบบกรองอากาศนั้นจะมีการออกแบบให้สามารถกรองฝุ่นขนาดเล็ก เช่น PM2.5 ได้ เพื่อให้อากาศที่ผ่านออกมามีคุณภาพสูงขึ้น
  2. การกรองเชื้อโรค และสารพิษ
    โดยสำหรับระบบกรองอากาศในบางระบบ นั้นจะมีตัวกรองหลายชั้นที่สามารถกรองเชื้อโรค เช่น แบคทีเรีย และ ไวรัสได้ รวมถึงสารเคมี และ สารพิษที่เป็นอันตราย เช่น แก๊สพิษ หรือ สารระเหยที่มาจากสารเคมีต่าง ๆซึ่งจำเป็นจะต้องมีแผ่นกรองเฉพาะเหล่านั้น

  3. การใช้เทคโนโลยีการฆ่าเชื้อ
    หากเป็นระบบกรองอากาศในบางระบบมีการติดตั้งแสง UV เพื่อช่วยในการฆ่าเชื้อโรค และ ทำลายแบคทีเรีย หรือ ไวรัสที่อาจหลุดรอดจากกระบวนการกรองอากาศได้

  4. การฟอกอากาศ
    ระบบกรองอากาศนั้นนอกจากการกรองฝุ่นแล้ว บางระบบกรองอากาศยังมีการใช้ตัวกรองที่สามารถดูดซับกลิ่นไม่พึงประสงค์ และ สารเคมี เช่น การใช้ถ่านกัมมันต์ (activated carbon) เพื่อทำให้อากาศที่ปล่อยออกมาสะอาดและบริสุทธิ์มากขึ้น

 

องค์ประกอบของระบบกรองอากาศ

  1. แผ่นกรองอากาศขั้นต้น (Pre-Filter)
    สำหรับตัวกรองชั้นแรกของระบบกรองอากาศนั้นจะทำหน้าที่กรองฝุ่นขนาดใหญ่ เศษผง หรือ เส้นผม ก่อนที่จะเข้าสู่ขั้นตอนการกรองอื่น ๆ เพื่อช่วยยืดอายุการใช้งานของตัวกรองหลักให้ไม่ต้องใช้งานหนักจนเกินไป

  2. แผ่นกรองกลิ่น (Carbon Filter)
    อีกขั้นของการกรองกลิ่นในระบบกรองอากาศเพื่อทำหน้าที่ในการดูดซับกลิ่นและสารเคมีในอากาศ เช่น กลิ่นจากสัตว์เลี้ยง กลิ่นอาหาร กลิ่นเหม็นอับที่เกิดจากความชื้น แก๊สพิษจากรถยนต์ ควันบุหรี่ หรือสารเคมีระเหยที่เป็นอันตราย ช่วยทำให้อากาศสะอาดและช่วยลดกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้นั้นเอง

  3. แผ่นกรองอากาศขั้นกลาง (Medium Filter)
    เป็นตัวกรองอากาศชั้นกลางที่มีความละเอียดมากกว่าชั้นต้น สามารถกรองฝุ่นได้ในระดับตั้งแต่ 0.3-3 ไมครอน เช่น ฝุ่น PM 2.5 นอกจากนี้ Medium Filter ยังช่วยยืดอายุการใช้งานของ HEPA Filter อีกด้วย ซึ่งทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายลงได้เหมาะสำหรับสถานที่ที่ต้องการความสะอาดมากๆ เช่น โรงพยาบาล โรงงานผลิตยา โรงงานผลิตอาหาร

  4. แสง UV (UV-C Light)
    แสง UV ในระบบกรองอากาศจะใช้ในการฆ่าเชื้อโรค โดยเฉพาะแบคทีเรีย และ ไวรัสที่อาจหลุดรอดจากการกรองผ่านตัวกรอง HEPA ทำให้อากาศที่ผ่านออกมาปลอดเชื้อ และสะอาดมากยิ่งขึ้น

  5. แผ่นกรองอากาศขั้นสุดท้าย HEPA (High Efficiency Particulate Air)
    อีกประเภทของตัวกรองอากาศยอดนิยมซึ่ง HEPA Filter นั้นเป็นตัวกรองของระบบกรองอากาศที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในการกรองอนุภาคขนาดเล็ก เช่น ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ขนสัตว์ ละอองเกสร เชื้อรา และ แบคทีเรีย โดยสามารถกรองอนุภาคที่มีขนาดเล็กกว่า 0.3 ไมครอน ได้ถึง 99.99% และที่ 0.12 ไมครอน ได้ถึง 99.9995%

  6. พัดลม (Fan)
    พัดลมในระบบกรองอากาศจะช่วยดึงอากาศเข้ามาผ่านตัวกรอง และผลักอากาศที่ผ่านการกรองแล้วออกไป โดยพัดลมมีความสำคัญในการควบคุมอัตราการไหลของอากาศ และทำให้การกรองอากาศมีประสิทธิภาพมากขึ้น

จากที่กล่าวมาจะเห็นได้ว่าระบบกรองอากาศทำงานโดยการดูดอากาศที่มีฝุ่นละออง เชื้อโรค และ สารพิษผ่านตัวกรองที่มีหลายชั้น ซึ่งรวมถึงตัวกรอง HEPA Filter สำหรับกรองฝุ่นขนาดเล็ก ตัวกรองกลิ่น (Carbon Filter) สำหรับดูดซับกลิ่น และสารเคมี พร้อมทั้งเทคโนโลยีเสริมอื่นๆ เช่น ระบบ UV-C เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการฟอกอากาศให้ดียิ่งขึ้น ดังนั้นหากต้องการระบบกรองอากาศที่มีประสิทธิภาพสำหรับคนที่คุณรัก เราขอแนะนำ JAF ผู้ให้บริการชั้นนำด้านผลิตภัณฑ์ และโซลูชั่นเครื่องฟอกอากาศ และ ระบบกรองอากาศ ซึ่งสามารถกรองมลพิษทางอากาศได้อย่างเต็มที่อีกทั้งยังช่วย การควบคุมมลพิษทางอากาศที่ครอบคลุมทั้งบ้าน โดยทีมงานมืออาชีพที่มีประสบการณ์มากว่า 20 ปี เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า ให้ได้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ ตอบโจทย์การใช้งาน และ แก้ปัญหาลูกค้าให้หมดไป อีกทั้งยังมีบริการให้คำปรึกษาทั้งก่อน และ บริการหลังการขายที่ดีอีกด้วย

สนใจติดต่อสอบถาม 
บริษัท เจแปน แอร์ฟิลเตอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด

ที่อยู่ 499/26 หมู่ที่ 13 ตำบลราชาเทวะ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ 10540
TEL:02-186-8942-3, 096-801-2236
Email : sales@jafthailand.com