โรงพยาบาลจำเป็นต้องใช้เครื่องฟอกอากาศหรือไม่

ทำไมโรงพยาบาลต้องมีเครื่องฟอกอากาศ

โรงพยาบาลจำเป็นต้องใช้เครื่องฟอกอากาศหรือไม่

สำหรับสถานพยาบาลนั้น สภาพแวดล้อมที่ดีและอากาศที่บริสุทธิ์ถือเป็นปัจจัยสำคัญต่อการรักษาและฟื้นฟูสุขภาพของผู้ป่วย หากอากาศปนเปื้อนด้วยสารพิษ เชื้อโรค หรือมลพิษต่าง ๆ อาจส่งผลกระทบอย่างมากต่อสุขอนามัยและความปลอดภัยของทั้งผู้ป่วย บุคลากรทางการแพทย์ และผู้มาเยี่ยมเยือน ด้วยเหตุนี้การติดตั้งเครื่องฟอกอากาศจึงถือเป็นมาตรการสำคัญที่จะช่วยกรองอากาศภายในอาคารของโรงพยาบาลให้ดีขึ้น

5 เหตุผลที่โรงพยาบาลควรใช้เครื่องฟอกอากาศ

  1. ควบคุมและป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรคและไวรัส
    เป็นหนึ่งในบทบาทสำคัญของเครื่องฟอกอากาศในโรงพยาบาล เนื่องจากโรงพยาบาลเป็นสถานที่ที่มีความเสี่ยงสูงต่อการแพร่กระจายของเชื้อโรคและไวรัสต่าง ๆ จึงต้องมีเครื่องฟอกอากาศมีระบบกรองอากาศที่มีประสิทธิภาพสูงที่สามารถดักจับและกำจัดเชื้อโรค ไวรัส แบคทีเรีย และสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กก่อโรคต่าง ๆ ได้ เพราะการป้องกันการแพร่กระจายของโรคติดต่อมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง

    โดยเฉพาะในช่วงการระบาดของโรคร้ายแรง เช่น โควิด-19 หรือโรคอุบัติใหม่อื่น ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ เครื่องฟอกอากาศที่มีประสิทธิภาพสูงจะช่วยสกัดกั้นและลดความเสี่ยงในการแพร่กระจายของเชื้อโรคเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิผล ทำให้โรงพยาบาลสามารถให้บริการและดูแลรักษาผู้ป่วยได้อย่างปลอดภัยยิ่งขึ้น

  2. ควบคุมกลิ่นอับและสารเคมีต่าง ๆ
    เนื่องจากสถานพยาบาลเป็นแหล่งกำเนิดของกลิ่นและสารเคมีต่าง ๆ ที่อาจรบกวนหรือเป็นอันตรายต่อผู้ป่วยและบุคลากรทางการแพทย์ได้ง่าย หนึ่งในกลิ่นที่พบได้บ่อยในโรงพยาบาลคือกลิ่นของยาและเวชภัณฑ์ต่าง ๆ บางชนิดมีกลิ่นค่อนข้างแรงและอาจทำให้ผู้ป่วยรู้สึกอึดอัดหรือวิงเวียนศีรษะได้ นอกจากนี้อาจมีกลิ่นจากการผ่าตัด กลิ่นจากเชื้อเพลิงของรถพยาบาล หรือกลิ่นจากห้องปฏิบัติการต่าง ๆ ซึ่งล้วนเป็นกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์และอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพของผู้อยู่อาศัยในโรงพยาบาล

    ซึ่งเครื่องฟอกอากาศสามารถทำหน้าที่กรองอากาศ สารเคมี สารพิษ และกลิ่นรบกวนต่าง ๆ เหล่านี้ออกไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยใช้ระบบกรองคาร์บอนฟิลเตอร์หรือกรองฆ่าเชื้อด้วยระบบโอโซนเป็นต้น ทำให้บรรยากาศโดยรอบสะอาด ปราศจากกลิ่นรบกวน สดชื่น และเหมาะสมสำหรับการพักฟื้นของผู้ป่วย ปราศจากกลิ่นและสารเคมีรบกวน นอกจากยังเป็นการลดความเสี่ยงจากการสูดดมสารพิษต่าง ๆ ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อระบบทางเดินหายใจและสุขภาพโดยรวมของผู้ป่วยและบุคลากรอีกด้วย

  3. ช่วยลดปัญหามลพิษจากภายนอก
    แม้ว่าภายในอาคารโรงพยาบาลจะมีระบบควบคุมคุณภาพอากาศที่ดีเยี่ยม แต่อากาศจากภายนอกที่มีมลพิษปนเปื้อนก็อาจแพร่กระจายเข้ามาได้ ผ่านทางช่องเปิดต่าง ๆ เช่น ฝุ่นละออง เขม่าควัน และมลพิษทางอากาศอื่น ๆ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นอนุภาคขนาดเล็กที่อาจฝังตัวอยู่ในระบบทางเดินหายใจและส่งผลกระทบต่อสุขภาพ โดยเฉพาะกับผู้ป่วยที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบหายใจอยู่แล้ว เครื่องฟอกอากาศสามารถช่วยกรองและดักจับอนุภาคฝุ่นเล็กๆและมลพิษที่ปนเปื้อนกับอากาศ ส่งผลให้อากาศที่ผ่านออกมามีความสะอาดและบริสุทธิ์มากขึ้น

    นอกจากจะช่วยปกป้องสุขภาพของผู้ป่วยและบุคลากรทางการแพทญ์แล้ว การมีอากาศที่สะอาดและปราศจากมลพิษก็ยังเป็นการส่งเสริมสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมต่อการพักฟื้นของผู้ป่วยด้วย บรรยากาศที่สดชื่น ปราศจากมลภาวะช่วยให้ผู้ป่วยรู้สึกผ่อนคลายและฟื้นตัวได้เร็วขึ้น ซึ่งนับเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการรักษาพยาบาลโดยรวม

  4. ลดความเสี่ยงในการเจ็บป่วยของบุคลากรทางการแพทย์
    เป็นประโยชน์อีกประการหนึ่งของการติดตั้งเครื่องฟอกอากาศในโรงพยาบาล เนื่องจากบุคลากรทางการแพทย์จำเป็นต้องทำงานในสภาพแวดล้อมที่มีความเสี่ยงสูงต่อการสัมผัสกับสารเคมี, แบคทีเรีย, ไวรัส และ เชื้อโรคต่าง ๆ เป็นระยะเวลานาน ซึ่งจะไหลล่องลอยออกมาจากห้องผ่าตัด หรือ ห้องปฏิบัติการ หรือ แผนกต่างๆ ในโรงพยาบาลนั้น หรือ เกิดจากการแพร่กระจายมาจากผู้ป่วยเอง ซึ่งหากสะสมอยู่ในอากาศเป็นระยะเวลานานจะก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อสุขภาพของบุคลากรทางการแพทย์ ซึ่งถ้ามีการสูดดมสิ่งเหล่านี้เป็นประจำอาจทำให้เกิดปัญหาระบบทางเดินหายใจ เช่น หอบหืด ไอเรื้อรัง หรือโรคปอดเรื้อรัง

    นอกจากนี้ยังอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็ง โรคหัวใจและหลอดเลือด รวมถึงโรคติดเชื้ออื่น ๆ ได้อีกด้วย การติดตั้งเครื่องฟอกอากาศที่มีประสิทธิภาพสูงจะช่วยควบคุมและลดระดับของสารเคมี เชื้อโรค และมลพิษในอากาศให้อยู่ในระดับที่ปลอดภัย ช่วยสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ดีขึ้นสำหรับบุคลากรทางการแพทย์ ลดความเสี่ยงในการเจ็บป่วยและป้องกันผลกระทบระยะยาวต่อสุขภาพจากการสัมผัสกับ การมีบุคลากรทางการแพทย์ที่มีสุขภาพแข็งแรงและปราศจากโรคภัยไข้เจ็บก็จะส่งผลให้การดูแลรักษาผู้ป่วยมีประสิทธิภาพดีมากขึ้นด้วย ดังนั้นการลงทุนติดตั้งเครื่องฟอกอากาศในโรงพยาบาลจึงเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าเพื่อปกป้องสุขภาพของบุคลากรทางการแพทย์ที่มีบทบาทสำคัญยิ่งในการดูแลรักษาผู้ป่วย

  5. สร้างความมั่นใจต่อผู้มารับบริการ
    เนื่องจากคุณภาพอากาศและสภาพแวดล้อมภายในโรงพยาบาลเป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการตัดสินใจเลือกใช้บริการของผู้ป่วยและญาติในปัจจุบัน ไม่เพียงแค่ความสะอาดของห้องพักผู้ป่วย แต่รวมถึงคุณภาพอากาศและบรรยากาศโดยรวมที่ส่งผลต่อความรู้สึกสบายและปลอดภัย สร้างความรู้สึกผ่อนคลายและมั่นใจให้แก่ผู้ป่วยและญาติซึ่งการใช้เครื่องฟอกอากาศถือเป็นส่วนหนึ่งของระบบการรักษาสภาพแวดล้อมและความสะอาดในโรงพยาบาล ช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีและสะท้อนถึงมาตรฐานการบริการที่ได้รับการดูแลอย่างทั่วถึง ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผู้ป่วยและญาติรู้สึกมั่นใจและปลอดภัยในการมารับบริการ

    ดังนั้นการติดตั้งเครื่องฟอกอากาศในโรงพยาบาลจึงไม่เพียงแต่มีประโยชน์ด้านสุขภาพและการรักษาพยาบาลเท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีและความมั่นใจให้แก่ผู้มารับบริการอีกด้วย ซึ่งจะส่งผลต่อความพึงพอใจและการตัดสินใจเลือกใช้บริการในระยะยาว เป็นการเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันและประสิทธิภาพการให้บริการของโรงพยาบาลนั้น ๆ ในภาพรวม

โรงพยาบาลในฐานะสถานที่สำคัญทางด้านการดูแลรักษาและส่งเสริมสุขภาพ การติดตั้งเครื่องฟอกอากาศจึงถือเป็นมาตรการที่ขาดไม่ได้ เพื่อควบคุมปัจจัยเสี่ยงด้านมลพิษทางอากาศ สร้างบรรยากาศที่ดี และยังความปลอดภัยให้แก่ทั้งผู้ป่วย, บุคลากรทางการแพทย์ และผู้มารับบริการทุกคน หากท่านสนใจติดตั้งเครื่องฟอกอากาศที่มีคุณภาพ เครื่องฟอกอากาศ ของ JAF ผู้ให้บริการชั้นนำด้านผลิตภัณฑ์และบริการด้านโซลูชั่นระบบกรองอากาศและการควบคุมมลพิษทางอากาศ ที่ตอบโจทย์และบริการครอบคลุมทั่วโลก โดยทีมงานมืออาชีพที่มีประสบการณ์มากกว่า 20 ปี ตอบสนองความต้องการของลูกค้า ได้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ และ แก้ปัญหาลูกค้าได้ครบและจบในที่เดียว

สนใจติดต่อสอบถาม หรือปรึกษาการเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศได้ที่ 
บริษัท เจแปน แอร์ฟิลเตอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด

ที่อยู่ 499/26 หมู่ที่ 13 ตำบลราชาเทวะ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ 10540
TEL:02-186-8942-3, 096-801-2236
Email : sales@jafthailand.com